หลักเกณฑ์ในการ PRE-APPROVE เบื้องต้น
หลักเกณฑ์ในการคัดกรองหรือการพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นในการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งธนาคารจะใช้เกณฑ์ในการพิจารณา ได้แก่ สถานภาพทางการเงินของผู้ขอกู้ ,ความสามารถในการชำระหนี้ (DSR)
ธนาคารจะต้องตรวจสอบรายได้ และภาระหนี้สินในแต่ละเดือน เมื่อพิจารณาผลแล้วว่ารายได้ผ่านเกณฑ์และภาระหนี้สินไม่มากเกินเกณฑ์ ก็ผ่านกระบวนการของการ Pre Approve เบื้องต้น
แต่ทั้งนี้เกณฑ์ดังกล่าวยังไม่สามารถการันตีได้ว่าธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อบ้านให้ 100% เนื่องจากหลังผ่านกระบวนการ Pre-Approve ไปแล้ว ก็ยังมีอีกหลายเกณฑ์ ที่ธนาคารยังต้องนำมาพิจารณาร่วมกันอีก ไม่ว่าจะเป็นการประเมินราคาทรัพย์สิน หลักประกัน ตลอดทั้งหลักฐานต่างๆ ซึ่งต้องรอให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติสุดท้ายอีกครั้ง
ในการพิจารณาเบื้องต้นนี้จะเป็นตัวการันตีเบื้องต้นว่า เราจะมีโอกาสในการยื่นกู้ผ่านมากหรือน้อย เพื่อที่จะหาแนวทางแก้ไขกันต่อไป ซึ่งในการรอผลอนุมัติสำหรับอาชีพข้าราชการหรือพนักงานประจำที่รับรายได้สม่ำเสมอนั้น จะใช้ระยะเวลาในการรอผลประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ ส่วนกรณีของเจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ หรืออาชีพอิสระ อาจใช้เวลาในการรอผลอนุมัติที่นานกว่า ซึ่งบางกรณีธนาคารขอเอกสารเพิ่มเติมได้ เพื่อผลการพิจารณาได้ครบถ้วน ซึ่งอาจนานถึง 4 สัปดาห์ ดังนั้นผู้ขอกู้จึงควรเผื่อเวลาในส่วนนี้ด้วย แนะนำว่าควรจัดเตรียมเบื้องต้นให้ครบถ้วนก่อนที่จะทำการยื่นขอสินเชื่อ เนื่องจากมีระยะเวลาที่จำกัดของการทำสัญญาจะซื้อจะขายกับเจ้าของบ้าน
ข้อดีการยื่น PRE-APPROVE
- ทำให้ทราบถึงความพร้อมและความสามารถในการผ่อนชำระ ตลอดทั้งวงเงินยอดขอกู้สินเชื่อบ้าน
- กรณีที่ทำการยื่น Pre-Approve ไม่ผ่านนั้นธนาคารจะชี้แจงเหตุผลและหาทางแก้ปัญหาให้เราได้ เช่น ติดเครดิตบูโร ,วงเงินกู้สูงเกินความสามารถ หรือมีภาระหนี้สินมากเกินไป เป็นต้น
- ไม่เสียค่าใช้จ่าย ลดโอกาสการกู้ไม่ผ่าน และเสียเงินมัดจำหรือทำสัญญาเปล่า
- ไม่เสียเครดิตเมื่อผล Pre-Approve ไม่ผ่าน ไม่ควรยื่นเกินหลายๆธนาคาร
เอกสารที่ใช้ PRE-APPROVE
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- รายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
- สลิปเงินเดือน (กรณีของพนักงานประจำ) / หนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนารับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือหลักฐานการเสียภาษีอาชีพอิสระ
- ใบสมัครขอสินเชื่อธนาคาร
- ใบยินยอมให้ตรวจเครดิตบูโร
จะทำการ PRE-APPROVE ไปทำไม ถ้าไม่สามารถการันตีได้ว่าจะกู้ผ่านหรือไม่
ผลของ Pre-Approve จะช่วยให้ผู้ขอกู้ทราบถึงความสามารถในการผ่อนชำระของตนเอง และสามารถขอกู้ได้ในวงเงินเท่าใดบ้าง หากยังไม่ผ่าน Pre-Approve จะช่วยให้เราสามารถวางแผนจัดสรรรายได้อีกครั้ง หรือหาช่องทางในการหารายได้เพิ่มเพื่อทำการขอสินเชื่อใหม่ในครั้งต่อไป โดยส่วนมากธนาคารจะพิจารณาประเมินประมาณ 3 – 5 วัน เพื่อแจ้งให้เราทราบ
ทำไม PRE APPROVE ผ่านแล้ว แต่ธนาคารไม่อนุมัติ
อาจเกิดได้จากหลายกรณี เช่น เตรียมเอกสารไม่ครบถ้วน ความไม่พร้อมของสถานภาพด้านการเงิน ความไม่มั่นคงของอาชีพ รวมถึงพฤติกรรมในการใช้จ่ายต่างๆ ตลอดจนภาระหนี้สิน
ซึ่งนอกจากจะพิจารณาข้อมูลทางด้านการเงินของผู้ขอกู้แล้ว ธนาคารยังต้องพิจารณาถึงตัวหลักทรัพย์ หลักประกัน และราคาของหลักทรัพย์นั้นๆ ซึ่งต้องตรวจสอบร่วมกัน ไม่สามารถการรันตีได้ว่าธนาคารจะอนุมัติวงเงินให้กู้ได้ 100%
การ Pre Approve ถือเป็นกระบวนการที่ดี สามารถตรวจสอบความสามารถของผู้ขอกู้ได้โดยไม่เสียเครดิต ได้ทราบถึงปัญหาและมาหาทางออกได้ต่อไป เพื่อการมีบ้านในฝัน
และไม่ว่าจะเป็นการซื้อการขายหรือหาเช่าเองก็ตาม ทางเรามีบริการครบจบที่เดียว มาพูดคุยกับเราได้เลยนะคะ ทักหาเราที่ Line official: @extra.home หรือกดที่นี่ได้เล้ยย>> https://lin.ee/FCUa835 มีแอดมินตอบทันใจเลยค่าา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------